จุดเริ่มจากเด็กกำพร้า และความรักที่ผลักดันสู่การพัฒนาเด็กในชุมชน
ให้ห่างไกลปัญหายาเสพติด
.
“เราก็สัมผัสความรักนั้นแล้วก็อยากแบ่งปันความรักให้กับคนอื่น เราก็ไม่อยากให้เด็กรู้สึกว่า ขาดเหมือนที่เราเคยขาด“
ครูอ๊อฟ KIDs-D สาขา 2 (บ้านอนันตพร) อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยมูลนิธิบ้านนกขมิ้น
.
ท่ามกลางเสียงเด็กๆ ที่พากันร้องเพลงทำกิจกรรมในวันเสาร์ที่ดังไปทั่วโถงชายคาที่ต่อเติมออกมาจากตัวบ้าน
หากสังเกตดูดีๆแผ่นเมทัลชีทนั้นสั้นบ้างยาวบ้าง สีสันต่างกันไปอย่างไม่เข้ากัน เนื่องจากมีที่มาจะแต่ละบ้านที่มีเหลือมาช่วยกันสร้างและซ่อมแซมบ้านอนันตพรตั้งแรกช่วงแรกๆ ที่เริ่มดูแลเด็กเพียงแค่สองสามคน ก่อนที่จะเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น แต่โชคดีที่ชุมชนต่างช่วยกันคนละไม้ละมือ ซ่อมแซมบ้านหลังเล็กๆ ที่อยู่ลึกสุดซอยหลังนี้ ให้ยังคงได้ดูแลเด็กๆ ในชุมชนจนปัจจุบันมีเด็กอยากจะเข้ามาทำกิจกรรมเป็นประจำกว่า 60-70 ชีวิต ให้ห่างไกลจากอบายมุข และเปิดโลกที่สดใสให้กับพวกเขา
.
ครูอ๊อฟเล่าว่า ก่อนที่จะมาเป็นครูอ๊อฟในวันนี้ตนเคยเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน รู้สึกว่าตนขาดความรักและไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองถึงโดดเดี่ยวขนาดนี้ ต่อมาได้มีโอกาสเป้นคริสเตียนและเข้าใจความรักมากขึ้นจึงรู้สึกอยากส่งต่อความรักให้เด็กๆ ที่ขัดสนจะไม่ต้องรู้สึกขาดอย่างที่ตนเคยเป็น จึงได้ตัดสินใจทำงานด้านเด็กในมูลนิธิแห่งหนึ่ง ก่อนที่ต่อมาจะแต่งงาน และสามีได้ซื้อบ้านที่อยู่ปัจจุบันในชุมชนแห่งนี้
.
ทั้งสองคนเริ่มสังเกตว่ามีเด็กๆในชุมชนอยากเล่นฟุตบอล แต่ไม่มีลูกบอลให้เล่น ครูพงษ์ สามีของครูอ๊อฟจึงมีใจอยากจะสอนเด็กๆ จึงได้มีโอกาสได้รับรู้ปัญหาในชุมชนที่ตนอยู่และใกล้เคียงว่าเด็กๆ ส่วนมากมีปัญหาครอบครัวแตกแยก ยากจน ขาดอาหาร และโภชนาการที่ดีกิน เด็กบางคนต้องอาศัยอยู่กับตายายที่ป่าช้า! คนที่หลุดออกจากระบบการศึกษาก็สนับสนุนให้ได้เรียนกศน. ไปจนถึงเด็กกลุ่มเสี่ยงยาเสพติดจากบุคคลรอบตัว และสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
.
ด้วยหัวใจ และความรักของครูอ๊อฟ จึงทำทุกวิถีทางร่วมกับจิตอาสาในด้านต่างๆ เข้าหาเด็กจากกิจกรรมที่พวกเขาอยากทำ เล่นฟุตบอล สอนการบ้าน เรียนดนตรี ภาษา และฝึกอาชีพ ทั้งยังช่วยกันเลี้ยงไข่ไก่ ปลูกผักเพื่อให้เด็กๆ ได้มีอาหารดีๆ กิน ทั้งยังหาทางช่วยผุ้ปกครองที่เคยติดคุกให้มีอาชีพ ก่อนตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน โดยรายได้และกำไรทั้งหมดยังนำมาหมุนเวียนเพื่อดุแลเด็กๆในโครงการต่อไป
.
แม้ว่าจะอยู่เบื้องหลังและผลักดันด้วยความรักอย่างเต็มที่ แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจและจำนวนเด็กๆ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บ้านหลังเล็ก เล้าไก่ และแปลงผักเริ่มไม่เพียงพอสำหรับเด็กๆ ยังไม่รวมค่าน้ำมันที่ไปรับส่งเด็กๆ และนักฟุตบอลตัวน้อยต่างหาก จึงเริ่มติดต่อขอความช่วยเหลือสนับสนุนมูลนิธิบ้านนกขมิ้น ด้วยปณิธานและความรักที่อยากจะดูแลเด็กๆ ต่อไปให้ได้ อยากเห็นเด็กๆ ไปไกลมากที่สุด ตามที่พวกเขาใฝ่ฝัน
.
.
ปัจจุบัน บ้านอนันตพรได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ ‘ศูนย์พัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน โดยมูลนิธิบ้านนกขมิ้น’ ทำให้การดูแลเด็กของครูอ๊อฟ–ครูพงษ์ และอาสาสมัคร ยิ้มได้กว้างขึ้น แต่ก็ยังขาดการช่วยเหลือที่เร่งด่วนอีกมาก เช่น โต๊ะกินข้าว ห้องน้ำ และที่นอนสำหรับนักกีฬาเด็กๆกลุ่มเสี่ยงยาเสพติด ที่ปัจจุบันอาศัยเพียงห้องเก็บของเล็กๆหลังห้องเรียนที่เป็นโรงเรือนก่อนปูนบางส่วนให้เด็กตัวเล็กๆ นอนเบียดกันหลายชีวิตในห้องเดียว
.
“ตอนนี้เราเช่าบ้านอีกหลังหนึ่งไว้ให้เด็กๆ บางส่วนที่ไม่มีที่อยู่อาศัย หรืออยู่ห่างไกลอยู่ค่ะ แต่เด็กกลุ่มที่เราเพิ่งจะเริ่มดูแลเพิ่มคือกลุ่มเด็กที่เสี่ยงยาเสพติด บางคนอายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น เราอยากให้เขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีนี้ ดีที่พอเขามาเล่นฟุตบอลกับเราแล้วเขาได้ห่างไกลจากความเสี่ยงได้บ้าง ในอนาคตที่คิดไว้ เราอยากจะมีหอพักเพื่อดูแลพวกเขาค่ะ”
.
.
จากหัวใจที่ไม่เคยรู้สึกขาด มาจนถึงวันนี้… “ครูอ๊อฟ” กลับเต็มล้นด้วยความรักที่พร้อมส่งต่อให้เด็กๆในชุมชนอย่างเต็มเปี่ยม
#มูลนิธิบ้านนกขมิ้น #ไฮไลท์ #เด็กๆ #เด็กกำพร้า #ครูผู้ส่งต่อรัก #ส่งต่อความรัก #วาเลนไทน์ #Valentine2025 #valentine
วาเลนไทน์ปีนี้ ร่วมกันเป็นอีก 1 พลังใจช่วยครูอ๊อฟ และพวกเราบ้านนกขมิ้น ในการ ‘ส่งต่อความรัก’ ให้ไปถึง ’เด็กขาดโอกาส’ อีกมากมายที่
………………………………………………………………………………..
บัญชีออมทรัพย์ : มูลนิธิบ้านนกขมิ้น
ธนาคารกสิกรไทย สาขาย่อยเดอะมอลล์บางกะปิ
หมายเลขบัญชี 732-2-87770-0
*การบริจาคสามารถลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย*
ขอบคุณครับ/ค่ะ
